การเล่นกีตาร์นั้นไม่ยากหากผู้เล่นเข้าใจทฤษฎีของดนตรีอย่างลึกซึ้ง สำหรับผู้ที่เริ่มฝึกเล่นดนตรีใหม่ ๆ มักจะไม่เข้าว่าทฤษฎีคืออะไร และจะมีประโยชน์อะไร (ผู้เล่นใหม่บางคนคิดว่า ฉันสามารถจับคอร์ดได้แล้ว เล่นได้หลายคอร์ด ฉันเนี่ยเก่งแล้ว... แต่ถว่าไม่รู้ที่มาของคอร์ด) อย่างนั้นถึงเพื่อน ๆ จะสามารถเล่นคอร์ดได้หลายคอร์ดก็จริง รู้ว่าคอร์ด A7 ต้องจับอย่างไหน คอร์ด Cmaj7 ก็จับได้นะ แต่ความสามารถของเพื่อน ๆ ก็จะหยุด อยู่แค่นั้นไม่พัฒนาขึ้นมา หากว่าไม่ศึกษาเพิ่มเติม ผู้เขียนจะยกตัวอย่างการนำทฤษฎีดนตรีไปใช้ เช่น
1.รู้คีย์ของเพลง เพื่อใช้ในการแกะเพลง แกะลูก Solo เอง เช่น ถ้ารู้ว่าเพลงนี้อยู่ใน key C ที่นี้เพื่อน ๆ ก็จะรู้ว่าเพลงนี้อยู่ในบันไดเสียง C maj ใช้ไหม มันก็จะมีกลุ่มคอรฺ์ดในคีย์นี้คือ C Dm Em F G Am Bmb7 และตัวโน้ตก็จะอยู่ในบันไดเสียง C maj เนี่ยละ ที่นี้ละก็ไม่ต้องง้อ tab และ หนังสือเพลงแล้วแกะเองเลย ^-^
2.สามารถนำความรู้ไปแต่งเพลงได้ เพราะรู้คีย์เพลง รู้กลุ่มคอร์ด ที่นี้ละสร้างดนตรีเองเลย
3.สามารถเล่นประสานเสียงกับ เครื่องดนตรีชนิดอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น เบส กลอง เช่น เปียโน แซกโซโฟน ก็ได้ เพราะรู้จักตัวโน้ตที่จะนำไปใช้ เพื่อได้เสียงดนตรีที่หลากหลาย
.....และยังมีอย่างอื่นอีก บางคนเริ่มงงแล้วใช่ไหมละ 555 แต่นี้เป็นเพียงการนำไปใช้ เรื่องทฤษฎีดนตรีนี้ไม่ยากอย่างที่คิดหรอกหากทำความเข้าใจกับมัน คำตอบก็จะอยู่ในตัวของมันเอง ละครับเพื่อน ๆ
วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555
โน้ตบนคอกีตาร์
วิธีการจำโน้ตบนคอกีตาร์ เพื่อน ๆ สามารถจำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ ไล่ C D E F G A B และก็วนกลับมาใหม่
ส่วนเครื่องหมาย # คือสูงขึ้นครึ่งเสียง เครื่องหมาย b คือต่ำลงครึ่งเสียง
ตัวอย่าง โน้ตระหว่าง C กับ D ก็คือ *C# และ Db
*(มีค่าเสียงที่เท่ากัน)
ฝึกทุก ๆ วัน แค่นี้เพื่อน ๆ ก็จะสามารถไล่โน้ตบนคอได้ทั้งหมดแล้วนะครับ
บันไดเสียง (Scale)
ความหมายของบันไดเสียง
บันไดเสียง (Scale) ในดนตรีตะวันตกเป็นชุดของระดับเสียงที่เรียงกันไปของโน้ตไม่เกิน 12 ตัว C, C#(Db), D, D#(Eb), E, F, F#(Gb), G, G#(Ab), A, A#(Bb), B ตามสำเนียงที่แตกต่างดันไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ที่ใช้ก็จะมี 7 ตัวเท่านั้นละครับ คือ C D E F G A B หรือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
การเรียกชื่อบันไดเสียง
บันไดเสียงจะมีชื่อเรียกตามโน้ตตัวแรกของบันไดเสียงนั้น ๆ เช่น เมเจอร์สเกลที่ประกอบด้วยโน้ต ยกตัวอย่าง C D E F G A B ก็จะเรียกว่า C Major Scale อีกตัวอย่าง E F# G# A B C# D# ก็จะเรียกว่า E Major Scale (เพื่อน ๆ อาจจะงง ว่าทำไม E Major Scale มีการใส่ # เดียวค่อยไปดูในเรื่อง เครื่องหมายกำหนดบันไดเสียง )
ประเภทของบันไดเสียง
ในบันไดเสียง จะใช้บันไดเสียงหลักได้แก่ เมเจอร์(Major) และไมเนอร์(Minor) ซึ่งเป็นบันไดเสียงที่ประกอบขึ้นจากโน้ต 7 ตัว เวลาไล่เสียงจะไล่จากโน้ตตัวที่ 1-7 แล้วจะไล่ไปหาโน้ตที่ชื่อเดียวกันกับโน้ตตัวแรกแต่อยู่สูงขึ้นไป 1 Octave เช่น C D E F G A B และก็กลับมาวนใหม่ ลองนับดูว่าจะมี 7 ตัว และกลับมาวนใหม่ 1 Octave พอกลับมาวนใหม่อีกรอบก็จะเป็น 2 Octave เสียงที่ได้ก้จะสูงขึ้นไปด้วย
บันไดเสียงเมเจอร์ จะมี
C Major Scale - C D E F G A B
D Major Scale - D E F# G A B C#
E Major Scale - E F# G# A B C# D#
F Major Scale - F G A Bb C D E
G Major Scale - G A B C D E F#
A Major Scale - A B C# D E F# G#
B Major Scale - B C# D# E F# G# A#
ยกตัวอย่าง
C Major Scale - C D E F G A B
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZNXflNsKkXrCvaYzoNjvlIZW8Jisp0K7krGYZdxNnu2VJDklOSgbFfd_oaSuL0d7Pq51GtAUOymGLmGpKKzYt1XHDwvp0qZrl0xE9w_lPhO2o8pqrkVSmMEuomED7pqWTLtQAY_JHgd6l/s640/majorscale-1.jpg)
G Major Scale - G A B C D E F#
เอาละที่นี่เพื่อน ๆ ก็ลองไปไล่โน้ตดู ทั้ง 7 Scale ตามโน้ตที่ได้ให้ไป (แต่เพื่อน ๆ ต้องรู้โน้ตบนคอกีตาร์ก่อนนะครับ ดูภาพประกอบโน้ตบนคอกีตาร์ ) พอไล่ได้ทั้ง 7 Major Scale แบบคล่องโดยไม่ต้องดูแล้ว ค่อยมาดูต่อ Minor Scale นะครับ
บันไดเสียง (Scale) ในดนตรีตะวันตกเป็นชุดของระดับเสียงที่เรียงกันไปของโน้ตไม่เกิน 12 ตัว C, C#(Db), D, D#(Eb), E, F, F#(Gb), G, G#(Ab), A, A#(Bb), B ตามสำเนียงที่แตกต่างดันไปตามวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ที่ใช้ก็จะมี 7 ตัวเท่านั้นละครับ คือ C D E F G A B หรือ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที
การเรียกชื่อบันไดเสียง
บันไดเสียงจะมีชื่อเรียกตามโน้ตตัวแรกของบันไดเสียงนั้น ๆ เช่น เมเจอร์สเกลที่ประกอบด้วยโน้ต ยกตัวอย่าง C D E F G A B ก็จะเรียกว่า C Major Scale อีกตัวอย่าง E F# G# A B C# D# ก็จะเรียกว่า E Major Scale (เพื่อน ๆ อาจจะงง ว่าทำไม E Major Scale มีการใส่ # เดียวค่อยไปดูในเรื่อง เครื่องหมายกำหนดบันไดเสียง )
ประเภทของบันไดเสียง
ในบันไดเสียง จะใช้บันไดเสียงหลักได้แก่ เมเจอร์(Major) และไมเนอร์(Minor) ซึ่งเป็นบันไดเสียงที่ประกอบขึ้นจากโน้ต 7 ตัว เวลาไล่เสียงจะไล่จากโน้ตตัวที่ 1-7 แล้วจะไล่ไปหาโน้ตที่ชื่อเดียวกันกับโน้ตตัวแรกแต่อยู่สูงขึ้นไป 1 Octave เช่น C D E F G A B และก็กลับมาวนใหม่ ลองนับดูว่าจะมี 7 ตัว และกลับมาวนใหม่ 1 Octave พอกลับมาวนใหม่อีกรอบก็จะเป็น 2 Octave เสียงที่ได้ก้จะสูงขึ้นไปด้วย
บันไดเสียงเมเจอร์ จะมี
C Major Scale - C D E F G A B
D Major Scale - D E F# G A B C#
E Major Scale - E F# G# A B C# D#
F Major Scale - F G A Bb C D E
G Major Scale - G A B C D E F#
A Major Scale - A B C# D E F# G#
B Major Scale - B C# D# E F# G# A#
ยกตัวอย่าง
C Major Scale - C D E F G A B
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjZNXflNsKkXrCvaYzoNjvlIZW8Jisp0K7krGYZdxNnu2VJDklOSgbFfd_oaSuL0d7Pq51GtAUOymGLmGpKKzYt1XHDwvp0qZrl0xE9w_lPhO2o8pqrkVSmMEuomED7pqWTLtQAY_JHgd6l/s640/majorscale-1.jpg)
G Major Scale - G A B C D E F#
เอาละที่นี่เพื่อน ๆ ก็ลองไปไล่โน้ตดู ทั้ง 7 Scale ตามโน้ตที่ได้ให้ไป (แต่เพื่อน ๆ ต้องรู้โน้ตบนคอกีตาร์ก่อนนะครับ ดูภาพประกอบโน้ตบนคอกีตาร์ ) พอไล่ได้ทั้ง 7 Major Scale แบบคล่องโดยไม่ต้องดูแล้ว ค่อยมาดูต่อ Minor Scale นะครับ
เครื่องหมายกำหนดบันไดเสียง (Key signature)
ระยะห่างระหว่างโน้ตเป็นโครงสร้างที่ใช้กำหนดบันไดเสียงประเภทเดียวกัน เมื่อตัวเริ่มต้นหรือโน้ตตัวแรกของบันไดเสียงเปลี่ยนไป จะทำให้ระยะห่างระหว่างโน้ตไม่เหมือนเดิม และต้องปรับให้มีโครงสร้างแบบเดียวกันโดย ใช้เครื่องหมายแปลงเสียง เช่น
โน้ตใน C Major Scale - C D E F G A B เป็นแม่แบบ
เมื่อเราต้องการรู้ E Major Scale
เราก็นำโน้ต E มาเป็นตัวเริ่มต้น E F G A B C D และเราก็จะใส่ # ตัวที่ 2 3 6 7 จะได้
E Major Scale - E F# G# A B C# D# ตามโครงสร้าง Major Scale
เมื่อเราต้องการรู้ A Major Scale
เราก็นำโน้ต A มาเป็นตัวเริ่มต้น A B C D E F G และเราก็จะใส่ # ตัวที่ 3 6 7 จะได้
A Major Scale - A B C# D E F# G# ตามโครงสร้าง Major Scale
ส่วน Major Scale อื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกันกัน ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสงสัยแล้วโครงสร้าง Major Scale มาจากไหน ให้เพื่อน ๆ ไปทำความเข้าใจ กับเรื่องบันไดเสียงนะครับ ผมก็ไม่สามารถจะอธิบายได้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองเมื่อฝึกไปนาน ๆ เล่นไปนาน ๆ แล้วจะเกิดการเรียนรู้เองครับ
โน้ตใน C Major Scale - C D E F G A B เป็นแม่แบบ
เมื่อเราต้องการรู้ E Major Scale
เราก็นำโน้ต E มาเป็นตัวเริ่มต้น E F G A B C D และเราก็จะใส่ # ตัวที่ 2 3 6 7 จะได้
E Major Scale - E F# G# A B C# D# ตามโครงสร้าง Major Scale
เมื่อเราต้องการรู้ A Major Scale
เราก็นำโน้ต A มาเป็นตัวเริ่มต้น A B C D E F G และเราก็จะใส่ # ตัวที่ 3 6 7 จะได้
A Major Scale - A B C# D E F# G# ตามโครงสร้าง Major Scale
ส่วน Major Scale อื่น ๆ ก็ทำเช่นเดียวกันกัน ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสงสัยแล้วโครงสร้าง Major Scale มาจากไหน ให้เพื่อน ๆ ไปทำความเข้าใจ กับเรื่องบันไดเสียงนะครับ ผมก็ไม่สามารถจะอธิบายได้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่เราจะรู้ได้ด้วยตัวเองเมื่อฝึกไปนาน ๆ เล่นไปนาน ๆ แล้วจะเกิดการเรียนรู้เองครับ
บันไดเสียงไมเนอร์
มี 3 ประเภท ได้แก่ Natural Minor,Harmonic Minor,Melodic Minor
Natural Minor เพียงแค่ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 6 7 ในบันไดเสียง Major Scale ก็ได้แล้วครับ
C Natural Minor Scale - C D Eb F G Ab Bb
D Natural Minor Scale - D E F G A Bb C
E Natural Minor Scale - E F# G A B C D
F Natural Minor Scale - F G Ab Bb C Db Eb
G Natural Minor Scale - G A Bb C D Eb F
A Natural Minor Scale - A B C D E F G
B Natural Mionr Scale - B C# D E F# G A
Harmonic Minor ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 6 ในบันไดเสียง Major Scale
C Harmonic Minor Scale - C D Eb F G Ab B
D Harmonic Minor Scale - D E F G A Bb C#
E Harmonic Minor Scale - E F# G A B C D#
F Harmonic Minor Scale - F G Ab Bb C Db E
G Harmonic Minor Scale - G A Bb C D Eb F#
A Harmonic Minor Scale - A B C D E F G#
B Harmonic Mionr Scale - B C# D E F# G A#
Melodic Minor ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 ในบันไดเสียง Major scale ในขาขึ้น ส่วนขาลง(ไล่โน้ตย้อนกลับ)จะเหมือนกับ Natural Minor
C MelodicMinor Scale - C D Eb F G A B
D Melodic Minor Scale - D E F G A B C#
E Melodic Minor Scale - E F# G A B C# D#
F Melodic Minor Scale - F G Ab Bb C D E
G Melodic Minor Scale - G A Bb C D E F#
A Melodic Minor Scale - A B C D E F# G#
B Melodic Mionr Scale - B C# D E F# G# A#
เป็นไงละไม่ยากใช่ไหม กับไมเนอร์สเกล แต่มีที่ต้องระวังอยู่ก็คือ melodic minor ในส่วนขาลงนั้นจะเหมือนกับ Natural Minor นะครับ เช่น
A Melodic Minor Scale - A B C D E F# G# ในส่วนขาลงก็คือ G F E D C B A Melodic อื่น ๆ ก็ทำนองเดียวกัน หลังจากนี้เพื่อน ๆ ก็ลองหยิบกีตาร์มาไล่ Scale ให้คล่อง ๆ เลยนะครับให้ได้ทั้ง Major Scale และ Minor Scale เพราะนี้จะเป็นพื้นฐานในการคิด Mode ต่อไป
Natural Minor เพียงแค่ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 6 7 ในบันไดเสียง Major Scale ก็ได้แล้วครับ
C Natural Minor Scale - C D Eb F G Ab Bb
D Natural Minor Scale - D E F G A Bb C
E Natural Minor Scale - E F# G A B C D
F Natural Minor Scale - F G Ab Bb C Db Eb
G Natural Minor Scale - G A Bb C D Eb F
A Natural Minor Scale - A B C D E F G
B Natural Mionr Scale - B C# D E F# G A
Harmonic Minor ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 6 ในบันไดเสียง Major Scale
C Harmonic Minor Scale - C D Eb F G Ab B
D Harmonic Minor Scale - D E F G A Bb C#
E Harmonic Minor Scale - E F# G A B C D#
F Harmonic Minor Scale - F G Ab Bb C Db E
G Harmonic Minor Scale - G A Bb C D Eb F#
A Harmonic Minor Scale - A B C D E F G#
B Harmonic Mionr Scale - B C# D E F# G A#
Melodic Minor ใส่ b โน้ตตัวที่ 3 ในบันไดเสียง Major scale ในขาขึ้น ส่วนขาลง(ไล่โน้ตย้อนกลับ)จะเหมือนกับ Natural Minor
C MelodicMinor Scale - C D Eb F G A B
D Melodic Minor Scale - D E F G A B C#
E Melodic Minor Scale - E F# G A B C# D#
F Melodic Minor Scale - F G Ab Bb C D E
G Melodic Minor Scale - G A Bb C D E F#
A Melodic Minor Scale - A B C D E F# G#
B Melodic Mionr Scale - B C# D E F# G# A#
เป็นไงละไม่ยากใช่ไหม กับไมเนอร์สเกล แต่มีที่ต้องระวังอยู่ก็คือ melodic minor ในส่วนขาลงนั้นจะเหมือนกับ Natural Minor นะครับ เช่น
A Melodic Minor Scale - A B C D E F# G# ในส่วนขาลงก็คือ G F E D C B A Melodic อื่น ๆ ก็ทำนองเดียวกัน หลังจากนี้เพื่อน ๆ ก็ลองหยิบกีตาร์มาไล่ Scale ให้คล่อง ๆ เลยนะครับให้ได้ทั้ง Major Scale และ Minor Scale เพราะนี้จะเป็นพื้นฐานในการคิด Mode ต่อไป
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)